ราคา Mitsubishi All New Pajero sport 2020 – ปาเจโร่ สปอร์ตใหม่ 2020
Mitsubishi All New Pajero Sport :: มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่
“มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” รถยนต์อเนกประสงค์พันธุกรรมรถแข่ง ถือเป็นรถยนต์รุ่นเดียวในระดับที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Super Select 4WD II ให้คนขับเปลี่ยนระบบการขับเคลื่อน 2 ล้อ ไปเป็นแบบ 4 ล้อ ได้อย่างง่ายดาย ขับขี่อย่างมั่นใจแม้บนพื้นเปียก เมื่อใช้งานระบบขับเคลื่อนแบบ 4H ทั้งยังเข้าโค้งได้โดยที่ไม่มีอาการฝืนของล้อ พร้อมสมรรถนะการยึดเกาะถนนทั้งบนทางตรง และทางโค้ง ที่ดีกว่าด้วยแชสซีส์แกร่ง เหนือกว่านั้น “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอย่าง ระบบล็อคความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว และระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใด ที่มอบความมั่นใจในการขับขี่ให้กับคนขับเฉกเช่น “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต”
ดีไซน์ภายนอก
สะท้อนวิถีแห่งผู้นำที่แตกต่าง ด้วยอีกขั้นของการออกแบบ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมสะกดทุกสายตา

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับแยกอุณหภูมิอิสระ ซ้าย-ขวา และเทคโนโลยี nanoeTM ที่สร้างไอออนประจุลบ เพื่อดักจับฝุ่นแบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ คงความชุ่มชื้นของผิว มอบความรู้สึกสดชื่นตลอดเส้นทาง*
*nanoeTM และ the nanoeTM เป็นเครื่องหมายการค้าของ Panasonic Corporation

มอบความสมบูรณ์แบบในการขับขี่ เพิ่มความมั่นใจในทุกสภาพถนน ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้คุณสามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-Time All Wheel Control เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนถนนลื่น และเมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบ Off-Road คุณยังสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc ได้ตามความต้องการ

– เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.4 ลิตร 181 แรงม้า พร้อมเสื้อสูบและฝาสูบ อลูมินัม อัลลอย ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน แข็งแกร่ง และระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม
– เพิ่มแรงม้าด้วยขุมพลังของ VG Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบปานกลาง และรอบสูง ตอบสนองทันใจ ช่วยให้ขับขี่สนุกและเร้าใจมากขึ้น
– ระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม ให้การเผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม

พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ทำงานควบคู่กับระบบ INC ที่ช่วยควบคุม และตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติในขณะรถหยุดนิ่ง และเหยียบเบรกในตำแหน่งเกียร์ “D” ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่ และลดการสึกหรอของระบบเกียร์ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานขึ้น พร้อมด้วยระบบ G-Sensor ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานแบบ Full-Time All Wheel Control เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็ว ระบบส่งกำลัง Torsen (Torque Sensitive Type) จะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้า 40 % และล้อหลัง 60% บนถนนแห้ง และล้อหน้า 50 % ล้อหลัง 50% เมื่อถนนเปียกลื่น เพื่อประสิทธิภาพในการเกาะถนนและความปลอดภัย
*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

‘ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำหน้าที่ในการส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา สำหรับใช้ในเส้นทางที่ทุรกันดาร แต่ยังสามารถใช้ความเร็วได้บนเส้นทางที่มีผิวแบบลื่นไหล (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้บนทางแห้ง)
*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Locked ทำหน้าที่ในการส่งกำลังในอัตราส่วน ล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา และเกียร์ส่งกำลัง (Transfer Gear Ratio) จะเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้น ช่วยทำให้กำลังการขับเคลื่อนมีมากขึ้น เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางที่ทุรกันดารมากๆ และมีโคลน หรือเส้นทางแบบมีเนินสลับและมีความลาดชันมากๆ (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 70 กม./ชม.)
*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น

– ช่วงล่างด้านหน้าอิสระ แบบดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ให้การเกาะถนนที่ดีทุกสภาพถนน เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่มากขึ้น
– ช่วงล่างด้านหลัง แบบทรีลิงค์ ทอร์คอาร์ม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ให้ความนุ่มนวล และการทรงตัวเหนือกว่า เพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนมากขึ้น
– ดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่ พร้อมช่องระบายความร้อน และคาร์ลิปเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ
– ดิสก์เบรกหลังขนาดใหญ่ แบบ Drum-in Discs พร้อมช่องระบายความร้อน

ระบบล็อกเฟืองท้ายหลัง ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า โดยกดสวิตช์ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง ระบบจะล็อกเฟืองท้ายหลังเพื่อให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลังทั้งซ้ายและขวาหมุนเท่ากันตลอดเวลา ทำงานร่วมกับ Center Differential Lock ช่วยให้ขับผ่านเส้นทางที่ทุรกันดารไปได้อย่างง่ายดาย
(เฉพาะรุ่น GT-Premium 4WD)

ระบบจะทำการล็อกความเร็วให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าไว้ โดยทำงานร่วมกับเรดาห์ หากตรวจพบว่ามีรถยนต์ด้านหน้าใช้ความเร็วต่ำกว่า ระบบจะปรับลดความเร็วอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะห่างจากรถยนต์ด้านหน้า และจะปรับความเร็วกลับสู่ระดับเดิมที่ตั้งค่าไว้ เมื่อรถยนต์ด้านหน้าพ้นจากระยะตรวจจับของเรดาห์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และปลอดภัยตลอดการเดินทาง
(เฉพาะรุ่น GT-Premium)

ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ จะทำงานเมื่อเลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง “P” และจะปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อเลื่อนคันเกียร์ออกจากตำแหน่ง “P”
ระบบ BRAKE AUTO HOLD เพียงกดปุ่ม AUTO HOLD ให้ระบบเริ่มทำงานเมื่อคุณเหยียบเบรกเพื่อให้รถหยุดนิ่ง จนไฟเขียวแสดงบนหน้าปัด (ขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง “D” หรือ “N”) ระบบจะทำงานและทำให้หยุดโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ ระบบจะคลายเบรกอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่ง สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แม้ในสภาวะการจราจรติดขัด

เชื่อมต่อความบันเทิงด้วย Apple CarPlay* เพียงเชื่อมต่อ iPhone ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต สามารถรับสายโทรเข้า-โทรออก และรับ-ส่งข้อความ พร้อมฟังเพลงได้อย่างง่ายดาย
หมายเหตุ : อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น โปรดศึกษารายละเอียดอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติม
*เงื่อนไขการใช้งาน Apple CarPlay เป็นไปตามเงื่อนไขที่ Apple Inc. กำหนด •Apple CarPlay และ iPhone เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท Apple Inc.
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ http://www.apple.com/ios/carplay/

เทคโนโลยีที่ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบการเชื่อมต่อรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมสั่งการทำงานบนสมาร์ทโฟน
• RESERVATION
สามารถสั่งการเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติได้ล่วงหน้าจากสมาร์ทโฟน (ในระยะเวลาไม่เกิน 20 นาที)
• VEHICLE REMINDER
ระบบจะแจ้งเตือนถึงสถานะของรถ เช่น ลืมล็อกรถ, ลืมปิดไฟหน้า สามารถเช็กสถานะของรถได้ เช่น การเปิด-ปิดไฟหน้า, การเปิด-ปิดไฟฉุกเฉิน อีกทั้งยังสามารถจัดการรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟน เช่น ปิดไฟฉุกเฉิน, สั่งล็อกประตูรถ (สั่งการได้ในกรณีที่ประตูรถปิดสนิทเท่านั้น ) เป็นต้น
• OPERATION ASSIST
ระบบช่วยเหลือพร้อมแจ้งสาเหตุผ่านสมาร์ทโฟน ในกรณีที่คุณไม่สามารถล็อกรถได้ เช่น ไม่มีกุญแจ ประตูปิดไม่สนิท ลืมดับเครื่องยนต์ หรือลืมนำกุญแจออกจากรถ
• VEHICLE INFORMATION
แสดงข้อมูลและประวัติการใช้งาน เช่น อัตราเฉลี่ยการบริโภคน้ำมัน, ระยะการเดินทาง, ประวัติการใช้รถ
• CAR FINDER
ค้นหารถยนต์ โดยสั่งการให้เปิดไฟหน้าจากสมาร์ทโฟนได้
หมายเหตุ : ระบบสั่งการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนจะสามารถทำงานในระยะสัญญาณบลูทูธเท่านั้น
(เฉพาะรุ่น GT-Premium)

– ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ
– ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้า
– ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล๊อก
– ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์
– ระบบล๊อกประตูรถอัตโนมัติ
– ระบบตัดการทำงานไฟหน้าอัตโนมัติ
– ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน
– สัญญาณเตือนลืมปิดไฟหรี่
– ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ
– รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร
– ปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์
– ระบบป้องกันการโจรกรรม
– ระบบกุญแจอัจฉริยะ

อีกระดับของความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องจราจร หากเรดาร์ตรวจพบรถคันอื่นที่วิ่งอยู่ในเลนถัดไปด้านหลังในระยะประมาณ 70 ม. ระบบจะส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถในจุดอับสายตา ซึ่งไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง และในขณะเดียวกันหากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวระบบจะส่งเสียงเตือน พร้อมสัญญาณเตือนไฟกะพริบบนกระจกมองข้าง ทั้งนี้การทำงานของระบบขึ้นอยู่กับความเร็วสัมพัทธ์ระหว่างรถกับรถในเลนถัดไป และระบบจะทำงานที่ความเร็ว 10 กม./ชม. ขึ้นไป
(เฉพาะรุ่น GT-Premium)

ระบบเสริมความปลอดภัย โดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และบรรเทาความเสียหายจากการชน
(เฉพาะรุ่น GT-Premium)

เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน ระบบทำงานโดยใช้คลื่น Ultrasonic ตรวจจับวัตถุด้านหน้าหรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่เกียร์อยู่ตำแหน่ง “D” หรือ “R” หากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติ และทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม.
(เฉพาะรุ่น GT-Premium)

กล้องมองภาพรอบคัน ระบบทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพ ได้รอบตัวรถ เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
หมายเหตุ : ระยะการจับภาพของกล้องมองภาพรอบคันเป็นเพียงภาพจับลองเพื่อความเข้าใจเท่านั้น

เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง เช่น กรณีเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว ถนนลื่น หรือหักหลบกะทันหัน พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบจะช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4 อย่างสมดุลในสภาวะถนนลื่น ขรุขระ หรือทางชัน เพื่อไม่ให้รถสูญเสียการยึดเกาะถนน
ผลการทดสอบอัตราเร่งและประหยัดน้ำมัน จาก ทางสื่อ กลาง Headlightmag.com
ผลทดสอบอัตราเร่ง และ ประหยัดน้ำมัน
ผลการทดสอบอัตราเร่ง ในรุ่น ขับสอง All New pajero sport อัตราเร่งดีสุดในตลาด PPV และอัตราการกินน้ำมัน 13.29 km/L เป็นอันดับ 2 แต่ได้แรงม้าที่มากกว่าเนื่องจาก All New pajero sport ได้ใช้เครื่องยนต์ อลูมินัม อัลลอย ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น และเสริมกับ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จึงทำ อัตราการกินน้ำมัน ดีสุดในตลาด ถ้าเทียบเครื่องยนต์และแรงม้าเดียวกัน