ราคา Mitsubishi All New Pajero sport 2018 – ปาเจโร่ สปอร์ตใหม่ 2018
ราคา มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต | GT 2WD | 1,301,000 |
ราคา มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต | GT-Premium 2 WD | 1,404,000 |
ราคา มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต | GT-Premium 4WD | 1,544,000 |
*Gt-Premium 2wd Limited เพิ่ม Airbag เป็น 7 ลูกเบาะสีเบจ
** สีขาวมุข W54 เพิ่มเงิน 15,000 บาท
Mitsubishi All New Pajero Sport :: มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่
“มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” รถยนต์อเนกประสงค์พันธุกรรมรถแข่ง ถือเป็นรถยนต์รุ่นเดียวในระดับที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Super Select 4WD II ให้คนขับเปลี่ยนระบบการขับเคลื่อน 2 ล้อ ไปเป็นแบบ 4 ล้อ ได้อย่างง่ายดาย ขับขี่อย่างมั่นใจแม้บนพื้นเปียก เมื่อใช้งานระบบขับเคลื่อนแบบ 4H ทั้งยังเข้าโค้งได้โดยที่ไม่มีอาการฝืนของล้อ พร้อมสมรรถนะการยึดเกาะถนนทั้งบนทางตรง และทางโค้ง ที่ดีกว่าด้วยแชสซีส์แกร่ง เหนือกว่านั้น “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอย่าง ระบบล็อคความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว และระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จึงมั่นใจได้ว่าไม่มีรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใด ที่มอบความมั่นใจในการขับขี่ให้กับคนขับเฉกเช่น “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต”
ดีไซน์ภายนอก
สะท้อนภาพลักษณ์ที่เหนือกว่า ด้วยอีกขั้นของงานออกแบบที่ความงดงามเป็นเอกลักษณ์ เปลี่ยนความธรรมดาสู่ความล้ำหน้าจนแทบไม่อยากละสายตา
ดีไซน์ภายใน
สัมผัสความปราณีตสไตล์สปอร์ตพรีเมี่ยมเฉกเช่นรถเอสยูวีระดับหรูด้วยวัสดุภายในเกรดพรีเมี่ยม พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Color High Contrast with 3D Animation และ เทคโนโลยีระบบปรับอากาศล่าสุดที่ให้อากาศบริสุทธิ์ตลอดการเดินทาง ผสานความสะดวกสบายด้วยการออกแบบ T-Shape High Console ทุกฟังก์ชั่นถูกออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งานโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน พิถีพิถัน ใส่ใจ ในทุกรายละเอียดเพื่อความสมบูรณ์แบบในการขับขี่อย่างแท้จริง
สวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ บนพวงมาลัย
ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้ว ให้คุณควบคุมอุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย และละสายตาจากถนน
(อุปกรณ์มีความแตกต่างกันในแต่ละรุ่น)
– ระบบล๊อคความเร็วแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ลดความเมื่อยล้า เมื่อต้องขับขี่ทางไกล (เฉพาะรุ่น GT-Premium)
– ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่คอพวงมาลัย (Paddle Shift) เพื่อความสนุกในการขับขี่ และควบคุมที่ดียิ่งขึ้น
(Adaptive Cruise Control – All New Pajero 2018 เฉพาะรุ่น GT-Premium)
ระบบล็อกเฟืองท้ายหลัง
ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า โดยกดสวิตช์ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง ระบบจะล็อกเฟืองท้ายหลังเพื่อให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อหลังทั้งซ้ายและขวาหมุนเท่ากันตลอดเวลา ทำงานร่วมกับ Center Differential Lock ช่วยให้ขับผ่านเส้นทางที่ทุรกันดารไปได้อย่างง่ายดาย
(All New Pajero 2017 เฉพาะรุ่น GT-Premium)
FCM : ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว
ระบบจะทำงานโดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และบรรเทาความเสียหายจากการชน
(All New Pajero เฉพาะรุ่น GT-Premium)
UMS : ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
ระบบทำงานโดยใช้คลื่น Ultrasonic ตรวจจับวัตถุด้านหน้าหรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่เกียร์อยู่ตำแหน่ง “D” หรือ “R” หากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติ และทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม. เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน
(All New Pajero 2018 เฉพาะรุ่น GT-Premium)
BSW : ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา
เพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องจราจร ระบบจะส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา ซึ่งไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง และในขณะเดียวกัน หากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งเสียงเตือนพร้อมสัญญาณเตือนไฟกะพริบบนกระจกมองข้าง ทั้งนี้ระบบจะทำงานที่ความเร็ว 20 – 140 กม./ชม.
(เฉพาะรุ่น GT-Premium)
เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะใหม่ล่าสุด ที่มีอัตราทดถึง 8 สปีด
พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ทำงานควบคู่กับระบบ INC ที่ช่วยควบคุม และตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติในขณะรถหยุดนิ่ง และเหยียบเบรกในตำแหน่งเกียร์ “D” ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่ และลดการสึกหรอของระบบเกียร์ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานขึ้น พร้อมด้วยระบบ G-Sensor ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน

พร้อมเสื้อสูบและฝาสูบ อลูมินัม อัลลอย ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน แข็งแกร่งและระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม เพิ่มแรงม้ามากขึ้นด้วยขุมพลังของ VG Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบปานกลาง และรอบสูง ตอบสนองทันใจ ช่วยให้ขับขี่สนุกและเร้าใจมากขึ้น ระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม ให้การเผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม
ช่วงล่างด้านหน้าอิสระ แบบดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
– ช่วงล่างด้านหน้าอิสระ แบบดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง ให้การเกาะถนนที่ดีทุกสภาพถนน เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่มากขึ้น
– ช่วงล่างด้านหลัง แบบทรีลิงค์ ทอร์คอาร์ม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ให้ความนุ่มนวล และการทรงตัวเหนือกว่า เพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนมากขึ้น
– ดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่ พร้อมช่องระบายความร้อน และคาร์ลิปเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ
– ดิสก์เบรกหลังขนาดใหญ่ แบบDrum-in Discs พร้อมช่องระบายความร้อน
Adaptive cruise control
ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบจะทำการล็อกความเร็วให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าไว้ โดยทำงานร่วมกับเรดาห์ หากตรวจพบว่ามีรถยนต์ด้านหน้าใช้ความเร็วต่ำกว่า ระบบจะปรับลดความเร็วอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะห่างจากรถยนต์ด้านหน้า และจะปรับความเร็วกลับสู่ระดับเดิมที่ตั้งค่าไว้ เมื่อรถยนต์ด้านหน้าพ้นจากระยะตรวจขับของเรดาห์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และปลอดภัยตลอดการเดินทาง
4H (4WD HIGH-RANGE)
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วในโหมดนี้ ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปทั้งล้อหน้า 40% และล้อหลัง 60% บนถนนแห้ง และล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เมื่อถนนเปียกลื่น โดยระบบ Torsen (Torque-Sensitive Type) เพื่อประสิทธิภาพในการ เกาะถนนและความปลอดภัย ในตำแหน่งนี้ระบบจะทำงานแบบระบบ
ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-time All Wheel Control
4HLc (4WD HIGH-RANGE WITH LOCKED TRANSFER)
ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Locked ทำหน้าที่ในการส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลาสำหรับใช้ในเส้นทางทุรกันดาร แต่ยังสามารถใช้ความเร็วได้บนเส้นทางที่มีพื้นผิวแบบลื่นไถล (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้บนทางแห้ง)
4LLc (4WD LOW-RANGE WITH LOCKED TRANSFER)
ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Locked ทำหน้าที่ในการส่งกำลังในอัตราส่วน ล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา และเกียร์ส่งกำลัง (Transfer Gear Ratio)จะเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้น ช่วยทำให้กำลังการขับเคลื่อนมีมากขึ้น เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางที่ทุรกันดารมากๆ และมีโคลน หรือเส้นทางแบบมีเนินสลับและมีความลาดชันมากๆ (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 70 กม./ชม.)
ผลการทดสอบอัตราเร่งและประหยัดน้ำมัน จาก ทางสื่อ กลาง Headlightmag.com
ผลทดสอบอัตราเร่ง และ ประหยัดน้ำมัน
ผลการทดสอบอัตราเร่ง ในรุ่น ขับสอง All New pajero sport อัตราเร่งดีสุดในตลาด PPV และอัตราการกินน้ำมัน 13.29 km/L เป็นอันดับ 2 แต่ได้แรงม้าที่มากกว่าเนื่องจาก All New pajero sport ได้ใช้เครื่องยนต์ อลูมินัม อัลลอย ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น และเสริมกับ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จึงทำ อัตราการกินน้ำมัน ดีสุดในตลาด ถ้าเทียบเครื่องยนต์และแรงม้าเดียวกัน